ปลูกฝังความยั่งยืนด้วยการวัดประเมินผลงานด้าน ESG 

Business people using digital tablet in lobby

เนื่องจากหัวใจหลักขององค์กรคือการมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน การวัดประเมินผลงานด้าน ESG จึงช่วยสร้างสำนึกความรับผิดชอบและก่อให้เกิดผลลัพธ์ได้

เมื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกํากับดูแล (ESG) เปลี่ยนจากสิ่งดี ๆ ที่องค์กรควรมี ไปสู่การเป็นองค์ประกอบสําคัญในธุรกิจของคุณ โปรดจําไว้ว่าสิ่งที่ถูกวัดประเมินย่อมหมายถึงสิ่งที่ทำลุล่วงไปแล้ว การวัดประเมินผลงานด้าน ESG สามารถปลูกฝังตัวชี้วัดความยั่งยืนให้ทั่วทั้งองค์กรของคุณ โดยจะเป็นการถ่ายทอดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ให้กลายเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล 

กระบวนการนี้มีความสําคัญ เนื่องจากความยั่งยืนคือหน้าที่ของทุกคนในธุรกิจ แต่มีองค์กรไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถส่งต่อความรับผิดชอบนี้ไปให้ไกลกว่าแค่กลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร เราเชื่อว่าเมื่อบริษัทมีความยั่งยืนที่แกนหลัก บริษัทเหล่านี้จะมีความพร้อมในการบรรลุเป้าหมายที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคาดหวังเท่านั้น ซึ่งหมายถึงการปลูกฝังสำนึกด้าน ESG ลงการวัดประเมินผลงาน และดึงดูดผู้คนในทุกระดับ

ความยั่งยืนกําลังผลักดันพฤติกรรมการซื้อของลูกค้ามากขึ้น พนักงานต้องการทำงานกับองค์กรที่มีเป้าหมายด้าน ESG ที่แข็งแกร่ง หน่วยงานกํากับดูแลต้องการความโปร่งใสต่อสาธารณะมากขึ้น และนักลงทุนและที่ปรึกษาตัวแทนกําลังผลักดันให้บริษัททําอะไรมากขึ้น

การพยายามทำทุกวิถีทางอย่างเต็มเพื่อสร้างความยั่งยืน จะทําให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพึงพอใจ และนี่คือสิ่งที่ถูกต้องและควรทําเพื่อโลกและผู้คนของเรา ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และช่วยให้ดึงดูดและการรักษาพนักงานไว้กับองค์กรได้มากขึ้น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสําคัญท่ามกลางสภาวะการขาดแคลนผู้มีทักษะความสามารถสูง

ESG คืออะไร

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม จะเป็นการวัดประเมินว่าองค์กรมีผลการปฏิบัติงานอย่างไรในฐานะผู้ดูแลรักษาธรรมชาติ รวมถึงการใช้พลังงาน มลพิษ ของเสีย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการปฏิบัติต่อสัตว์
ความยั่งยืนด้านสังคม จะเป็นการวัดประเมินวิธีการที่องค์กรจัดการความสัมพันธ์กับพนักงาน ซัพพลายเออร์ ลูกค้า และชุมชน
ความยั่งยืนด้านการกํากับดูแล จะเป็นการวัดประเมินสิทธิและความรับผิดชอบ ตลอดจนความคาดหวังระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการกํากับดูแลองค์กร

แนวโน้ม ESG

Global Talent Trends 2565 ของ Mercer พบว่าองค์กรมีการลงทุนมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน 
97%

ของผู้บริหารมุ่งเน้นไปที่ ESG ในองค์กรของตน 

64%

กังวลว่าการฝังเป้าหมายเหล่านี้ลงในแผนการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่นต่อวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน

1 ใน 3

ผู้บริหารกล่าวว่าเป้าหมายด้าน ESG/ความยั่งยืนกําลังมีอิทธิพลต่อแผนระยะสามปีของบริษัท

50%

ของผู้นําฝ่ายทรัพยากรบุคคลกล่าวว่าพวกเขาหันไปมุ่งเน้นเกี่ยวกับ ESG ความยั่งยืน และทุนนิยมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้น เนื่องจากการระบาดใหญ่

45%

ของผู้นําฝ่าย HR กําลังตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริหารมีภาระผูกพันสําหรับตัวชี้วัด ESG/ความยั่งยืน

6 ใน 10

บริษัทมีการแบ่งปันความเสี่ยงและรางวัลด้าน ESG กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

การดําเนินการล่าช้ากว่าที่ตั้งใจไว้

แม้การรับเอาหลักการด้าน ESG มาใช้จะมีประโยชน์ แต่ทุกฝ่ายก็เห็นพ้องว่าองค์กรไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวกได้รวดเร็วพอ วันนี้ มีเพียง 25% ของผู้บริหารที่กล่าวว่าบริษัทของตนได้เดินหน้าในเรื่องโครงการ ESG/ความยั่งยืน* องค์กรส่วนใหญ่กําลังทําเฉพาะสิ่งที่เป็นข้อบังคับเท่านั้น โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของ ESG แต่กลุ่มบริษัทขนาดเล็กแต่เติบโตเรื่อย ๆ ต้องการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่าการเพียงแค่ทําแบบฝึกหัดเรื่องความโปร่งใสของค่าตอบแทนที่จําเป็น พวกเขาจะทํางานอย่างแข็งขันเพื่อให้บรรลุความเสมอภาคในการจ่ายค่าจ้างภายใน และปรับปรุงโปรแกรมและมาตรการด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI)

การสร้างวัตถุประสงค์และสิ่งจูงใจด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก แม้ว่าองค์กรมากกว่า 80% กล่าวว่าพวกเขามุ่งเน้นไปที่การปรับปรุง DEI ซึ่งเป็นส่วนสําคัญของความยั่งยืนทางสังคม แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่กําหนดเป้าหมายและจุดมุ่งหมายหมายด้าน DEI เชิงปริมาณอย่างเป็นทางการ และแม้ว่าการดำเนินการเชิงสังคมของ ESG จะเกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นจุดมุ่งเน้นหลักก่อนหน้านี้ แต่มีเพียงหนึ่งในสามของผู้บริหารระดับประธานเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่กำหนดเป้าหมายในวิธีการวัดประเมินผลงานส่วนบุคคลให้เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการทํางานที่ดี (37%) และ DEI (36%)

*Global Talent Trends ของ Mercer ประจำปี 2565

การวัดประเมินผลงานด้าน ESG เป็นการปูทางสู่ความสำเร็จ

สําหรับองค์กรในทุกขั้นตอนของการมีส่วนร่วมกับ ESG การวัดประเมินผลงานสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ ช่วยชี้แนะผู้นําให้สามารถทำการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืนได้รอบคอบมาก ซึ่งเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขอบเขตที่ต้องมุ่งเน้น โครงสร้างและการกํากับดูแล การจัดการทรัพยากร และตัวชี้วัดและการจัดหาเงินทุน การมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบเชิงปฏิรูปเหล่านี้สามารถช่วยปลูกฝังความยั่งยืนลงในความเป็นผู้นํา แนวปฏิบัติด้านบุคลากร และการปฏิบัติการได้

การวัดประเมินผลงานยังสามารถคลายแรงจูงใจแบบดั้งเดิมที่ขับเคลื่อนโดยความสามารถในการทํากําไรและผลการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล สร้างงบประมาณตามปัจจัยต่าง ๆ ที่ครอบคลุมขึ้น รวมถึงความสามารถขององค์กรในการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายด้าน ESG จึงได้เริ่มเคลื่อนย้ายลงจากระดับผู้บริหาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้จัดการและพนักงานที่ไม่เคยได้เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เหล่านี้ 

การปลูกฝังความยั่งยืนลงในดีเอ็นเอขององค์กรของคุณ 

การมีความยั่งยืนคือหัวใจหลักในการสร้างการเปลี่ยนแปลง การถ่ายทอดค่านิยมให้เป็นความมุ่งมั่น และการถ่ายทอดมาตรฐานให้เป็นหลักปฏิบัติ เริ่มจากระดับบนสุดแล้วค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงมาสู่ทุกระดับชั้นขององค์กร พิจารณาทําตามขั้นตอนเหล่านี้: 

ก่อนสิ่งอื่นใด สมาชิกคณะกรรมการและผู้บริหารสามารถมุ่งมั่นที่จะเป็นแกนหลักที่ยั่งยืนได้ ความมุ่งมั่นนี้ชัดเจนและถ่ายทอดผ่านองค์กร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถสนับสนุนแบบฝึกหัดนี้ตั้งแต่เริ่มต้น

ทําให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์และเอกลักษณ์ขององค์กรของคุณ มีรากฐานที่ยึดมั่นอยู่ในกลยุทธ์ทางธุรกิจและรูปแบบการดําเนินงานตามเป้าหมายของคุณ มุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการ กระบวนการ และบุคลากรมีความสอดคล้องกัน 

ดัชนีความยั่งยืนหรือการประเมินความเสี่ยงสามารถวัดประสิทธิภาพด้าน ESG ขององค์กรของคุณได้ คุณสามารถใช้กรอบการทํางานเพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มความยั่งยืน 

สร้างโปรแกรมที่ช่วยปลูกฝังความยั่งยืนและความรับผิดชอบในทุกลําดับขั้นขององค์กร พิจารณาค่าตอบแทนของผู้บริหารที่ผูกมัด รวมถึงสิ่งจูงใจระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้บรรลุตัวชี้วัด ESG ซึ่งเป็นภาระผูกพันทางกฎหมายสําหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในบางเขตอํานาจศาล และเป็นความคิดที่ดีสําหรับทุกคน สร้างแรงจูงใจให้ผู้จัดการและพนักงานเพื่อสร้างผลงานตามกลยุทธ์ ESG ด้วยเช่นกัน และให้รางวัลแก่พวกเขาสําหรับการมีส่วนร่วมในโครงการ “รักษ์โลก” และการสร้างรอยเท้าทางสังคมของบริษัท ตรวจสอบความคืบหน้า วัดประเมินผลลัพธ์ด้วยวิธีเชิงปริมาณและปรับแก้แผนงานตามความจําเป็น

อธิบายจุดยืนของบริษัทเกี่ยวกับ ESG ให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรได้รับทราบ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผล กลยุทธ์ และช่องทางที่ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินการนี้ ทุกคนสามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหาและเข้าใจว่าประสิทธิภาพของพวกเขาสร้างความแตกต่างได้อย่างไร 

จัดให้บุคลากรของคุณมีความสามารถที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถส่งมอบและปฏิบัติงานตามกระบวนการและเป้าหมายได้ พัฒนาทักษะและฝึกอบรมพกำลังคนนักงานของคุณเมื่อจําเป็น 

ทบทวนและส่งเสริมพฤติกรรมที่พึงปรารถนา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตัดสินใจในแต่ละวันสะท้อนถึงหลักการด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางในด้านวัฒนธรรมและพฤติกรรมในองค์กร 

เศรษฐกิจหมุนเวียน ความรับผิดชอบหมุนเวียน

สําหรับองค์กรที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งหมายถึงองค์กรที่ลดการใช้วัสดุ ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง และรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลการปฏิบัติงานและผลลัพธ์ค่าตอบแทนอาจเชื่อมโยงอยู่กับตัวชี้วัดด้าน ESG สําหรับพนักงานกลุ่มต่าง ๆ

  • ผู้นําสามารถเริ่มต้นด้วยการสร้างและการสื่อสารถึงกลยุทธ์และเหตุผล: เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นส่วนสําคัญของ ESG สําหรับด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนสำคัญสําหรับองค์กรเช่นกัน เนื่องจากช่วยประหยัดต้นทุน ทําให้ลูกค้าพึงพอใจและสามารถดึงดูดผู้มีทักษะความสามารถสูง
  • การดําเนินการตามกลยุทธ์นี้ครอบคลุมถึงผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ที่มีหน้าที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการรีไซเคิล และมีการทำงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยิ่ง
  • ยอดขายผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนสามารถใช้เป็นแรงจูงใจได้จากแผนการจ่ายค่าตอบแทนที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กลายเป็นรายได้ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง 
  • พนักงานบริการเองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เมื่อพวกเขาต้องติดต่อกับลูกค้าเพื่อเรียกคืนและรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว 

ท้าทายตัวคุณเอง: คําถาม 10 ข้อเกี่ยวกับการปลูกฝัง ESG เข้าในองค์กรของคุณ

  1. คุณระบุพบปัญหา ESG ที่กดดันที่สุดขององค์กรของคุณหรือไม่
  2. วัตถุประสงค์และวัฒนธรรมองค์กรของคุณสอดคล้องกับหลักการ ESG มากน้อยเพียงใด
  3. แผนสร้างแรงจูงใจของคุณสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้าน ESG ของคุณมากน้อยเพียงใด แผนเหล่านั้นได้ผลหรือไม่ คุณสร้างจูงใจเพื่อให้บุคลากรได้รับค่าตอบแทนภายนอกขอบเขตของ ESG หรือไม่
  4. คุณนําพาบุคลากรของคุณไปด้วยอย่างไรบนเส้นทางนี้ บุคลากรทั่วทั้งองค์กรคำนึงถึง ESG ในการทํางานประจําวันของพวกเขามากน้อยเพียงใด
  5. คุณระบุถึงงานจากทั่วทั้งองค์กรของคุณที่มีผลกระทบมากที่สุดต่อผลการดําเนินงานด้าน ESG ไว้หรือไม่ พวกเขามีการพัฒนาเพื่อสร้างผลลัพธ์หรือไม่
  6. คุณได้ปลูกฝัง ESG ลงในโปรแกรมการจัดการผู้มีทักษะความสามารถสูงของคุณหรือไม่
  7. ความคาดหวังด้าน ESG มีอิทธิพลต่อข้อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของคุณอย่างไร
  8. คุณก้าวล้ำนำหน้าระเบียบข้อบังคับและข้อกําหนดในการรายงานที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
  9. คุณประเมิน เปรียบเทียบ และจัดการความคืบหน้าด้าน ESG ของคุณอย่างไร
  10. คุณได้กำหนดข้อผูกมัดที่มีกรอบเวลาบังคับเพื่อคงความรับผิดชอบเอาไว้หรือไม่

ทําให้ดีเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

องค์กรที่ก้าวหน้ามีการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่เพื่อความยั่งยืนและสร้างการมีส่วนร่วมกับกำลังคนทั้งหมดในการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา เพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่วัดประเมินได้ พวกเขาสร้างแรงจูงใจให้มีการดําเนินการที่ก่อให้เกิดข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็แสดงความรับผิดชอบในฐานะองค์กร เพื่อช่วยให้ผู้คนและสังคมไม่เพียงแต่อยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเจริญก้าวหน้าต่อไปในสำหรับคนรุ่น ๆ หลังต่อไป
เกี่ยวกับผู้เขียน (ต่าง ๆ)
Kai Anderson
Bjoern Hinderlich
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องสําหรับการซื้อ
    โซลูชันที่เกี่ยวข้อง
      ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้อง