Generative AI จะพลิกโฉมสามบทบาทหลักในงาน HR
Generative AI (GAI) จะพลิกโฉมงาน HR แม้มีความกลัวกันว่า AI จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานมากมายแต่ที่จริงแล้ว AI และระบบอัตโนมัติมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่องานบางอย่างเท่านั้น ไม่ใช่งานทั้งหมด มีโอกาสมากมายในการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์บทบาทใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนทำงานอย่างแท้จริง ดังนั้น เราจะมาสำรวจสามบทบาทในงาน HR ที่กําลังเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจาก AI และระบบอัตโนมัติ ได้แก่ ตำแหน่งพันธมิตรทางธุรกิจด้านทรัพยากรบุคคล (HRBP) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้และพัฒนา (L&D) และผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน
GAI อาจไม่ทําให้ตำแหน่งงานลดลงแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนทำงานด้าน HR ที่รู้จักใช้ GAI จะเป็นที่ต้องการมากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ GAI Mercer พบว่านายจ้างจำนวน 58% วางแผนที่จะใช้ GAI ในงาน HR ภายในเดือนมิถุนายน 2024 และถึงแม้นายจ้างจำนวน 76% คิดว่า GAI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแต่เรื่องนี้เป็นมากกว่าการประหยัดต้นทุน เพราะ GAI จะช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรม แก้ปัญหาที่ซับซ้อนและได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น ด้วยการทำให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และความคิดสร้างสรรค์อย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างไรต่อ HRBP ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน ข้อมูลจาก Mercer Operations Scanner™ แสดงการจัดสรรเวลางานของตำแหน่งเหล่านี้ในปัจจุบัน และผลของ AI กับระบบอัตโนมัติซึ่งอาจมีต่อการจัดสรรเวลางานในอนาคต การออกแบบวิธีทํางาน HR ใหม่จะทำให้ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลสามารถใช้เครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานและยกระดับการปฏิบัติงานในทีมของตน
ลองสมมุติบุคลากรสามคนเพื่อคาดการณ์ผลกระทบของ GAI ที่มีต่องาน HR ที่สําคัญ โดยมีข้อแม้ว่าการจัดสรรงานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างองค์กร
HRBP: ฮัดลีย์
แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าบทบาทพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ของฮัดลีย์นั้นไม่เหมือนกับสิ่งที่เธออยากทำอีกต่อไป เพราะนอกเหนือจากโครงการเชิงกลยุทธ์แล้วเธอยังต้องทำหน้าที่ธุรการสำหรับธุรกรรมมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฮัดลีย์ใช้เวลามากกว่าครึ่งหนึ่ง (55%) ในสัปดาห์การทํางานของเธอไปกับโครงการบริหารบุคลากร ซึ่งแบ่งออกเป็นการส่งมอบผลงาน (30%) การบริหารโครงการ (20%) และการสนับสนุนพนักงาน (5%)
บางครั้งฮัดลีย์รู้สึกเหมือนเป็นพันธมิตรด้านธุรกรรม HR มากกว่าพันธมิตรทางธุรกิจ เรื่องนี้สอดคล้องกับผลการสํารวจของ Mercer ในปี 2023 ซึ่งผู้ตอบแบบสํารวจจำนวน 47% ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่าบทบาทพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR เป็นไปในเชิงให้คําปรึกษามากกว่าเชิงธุรกรรม
หากพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR อย่างฮัดลีย์มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมก็จะแบ่งเวลาไปทํางานที่มีมูลค่าสูงได้มากขึ้น
- เพราะระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่าง ๆ เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงาน เธอจึงใช้เวลากับงานบริหารบุคลากรน้อยลงถึงหนึ่งในสาม
- เครื่องมือสมัยใหม่สามารถทําให้งานหลายอย่างกลายเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การมอบหมายงาน การจัดสรรทรัพยากร และอื่น ๆ เพื่อเร่งความเร็วของงานบริหารโครงการที่ Project Management Office (PMO) ของฮัดลีย์ไม่รองรับ
- เครื่องมือ GAI เช่นแชทบอท สามารถตอบคําถามที่พบบ่อยของงาน HR ช่วยให้ฮัดลีย์ใช้เวลากับงานสนับสนุนพนักงานน้อยลงจาก 5% เหลือเพียง 1% ของชั่วโมงทำงานทั้งหมด
- เครื่องมือ GAI สามารถขจัดงานกรอกข้อมูลซึ่งไม่ควรเป็นหน้าที่ของฮัดลีย์แต่เธอกลับต้องทำในหลายๆ กรณี
กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นว่าฮัดลีย์ใช้เวลาไปกับงานต่าง ๆ ที่ AI และระบบอัตโนมัติสามารถช่วยทำหรือทำแทนได้มากน้อยแค่ไหน
- ที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์นี่คือบทบาทที่ฮัดลีย์อยากทำมานานแล้วคือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สําหรับผู้บริหารระดับสูงในการเชื่อมโยงความต้องการทางธุรกิจกับงานด้าน HR บทบาทนี้จะใช้กรอบความคิดเชิงวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อน กําหนดทิศทางและเป็นผู้นําด้านบุคลากรของแผนกธุรกิจ โดยจะบอกเล่าเรื่องราวด้วยข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงความพยายามด้านบุคลากรเข้ากับผลลัพธ์ทางธุรกิจ
- บริการผู้นําบุคลากร หลายบริษัทยังคงต้องการพันธมิตรทางธุรกิจในระดับเดียวกับผู้จัดการบุคลากร หากไม่ต้องทำงานเชิงกลยุทธ์หรือเชิงธุรกรรม ฮัดลีย์ก็สามารถรับบทบาทด้านประสิทธิภาพขององค์กรได้ ซึ่งเธอจะมุ่งเน้นเฉพาะการพัฒนาและสนับสนุนผู้จัดการบุคลากรตลอดวงจรชีวิตการทำงานของพนักงาน
ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D: ลี
บทบาทอีกส่วนหนึ่งของลีคือการติดตามแนวโน้มและทักษะล่าสุดด้านเทคโนโลยี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาสังเกตเห็นว่าเครื่องมือ AI เช่น Midjourney และ Synthesia เลียนแบบความสามารถในการสร้างสรรค์ วิเคราะห์ และโต้ตอบที่ขับเคลื่อนหน้าที่การงานของเขาเอง ลีควรกังวลหรือไม่
AI และระบบอัตโนมัติจะส่งผลต่อส่วนสําคัญบางอย่างในบทบาทหน้าที่ของเขาแน่นอน ปัจจุบันงานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า ลีมักจะใช้เวลา 35% ในการออกแบบโปรแกรม และ 34% ในการส่งมอบโปรแกรม ซึ่งเราคาดว่างานเหล่านั้นจะลดลงเหลือ 21% และ 14% ของเวลาทำงานของลีตามลําดับ ระบบอัตโนมัติสามารถจัดตารางฝึกอบรมและจัดการกับการลงทะเบียน ส่วน GAI ก็สามารถให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ ตอบคําถามของผู้เข้ารับการฝึกอบรมและวิเคราะห์ข้อมูลประเมินการฝึกอบรมเพื่อแนะนําสิ่งที่ควรปรับปรุง
รายละเอียดทั้งหมดเป็นดังนี้
แม้ว่างานยุ่ง ๆ ของลีจะหายไปมากมายแต่สิ่งสําคัญสําหรับลีคือต้องคอยกำกับดูแลการเรียนรู้และพัฒนา เช่น งานเกี่ยวกับกลยุทธ์การฝึกอบรมและการจัดการเวนเดอร์จะไม่ถูกกระทบตามกราฟด้านบน AI จะช่วยให้ลีลดงานด้านการฝึกอบรมและเพิ่มความเป็นผู้ดำเนินรายการที่คอยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการแสวงหาข้อมูลและความคิดสร้างสรรค์
นอกจากนี้แม้แต่แพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้ที่ก้าวหน้าที่สุดก็ยังต้องการผู้ชี้นำเพื่อให้ทํางานได้อย่างราบรื่น GAI จะช่วยให้ลีมีเวลามากขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ในปัจจุบันและเริ่มสร้างรูปแบบการเรียนรู้และพัฒนาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานจะมีความยืดหยุ่นในอนาคต
ในโลกยุคใหม่ที่ใช้ AI ลีซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D ได้กลายเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนรู้ที่คอยสร้างและส่งมอบเนื้อหาเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก AI บทบาทของเขาเปลี่ยนจากเดิมที่มุ่งเน้นเฉพาะเนื้อหาและการส่งมอบผลงาน ไปสู่การส่งเสริมการเรียนรู้ การคัดสรรและการกํากับดูแล และสิ่งที่ดีสำหรับลีคือ GAI สามารถขยายผลความคิดสร้างสรรค์ของเขา เช่น แนะนําสไลด์นำเสนอและเนื้อหาการเรียนรู้
ผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน: เทย์เลอร์
ที่จริงแล้ว ภาระงานรายชั่วโมงมากกว่าครึ่งหนึ่ง (52%) ของเทย์เลอร์อาจได้รับผลกระทบ เมื่อคิดรวมกับวันลาที่ได้รับค่าจ้างช่วงเวลาดังกล่าวคือประมาณห้าถึงหกเดือนต่อปี ซึ่งในไม่ช้าอาจเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มผลกระทบทางธุรกิจและความมั่นคงในงานของเทย์เลอร์ตามลักษณะเชิงกลยุทธ์ของบทบาทที่ทำงานร่วมกับ AI ช่วยให้การออกแบบงานของเขาเปลี่ยนจากเดิมที่ทำตามกระบวนการไปสู่การเน้นผลลัพธ์ของพนักงาน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องมีนายจ้างที่เปิดรับการเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงนี้เข้ากับความพยายามพัฒนาทักษะที่แท้จริงและสามารถพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอนาคตของส่วนงานนี้
แชทบอท GAI สามารถจัดการงานสนับสนุนพนักงานได้สองในสามและสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบอย่างแท้จริง นายจ้างจํานวนมากว่าจ้างผู้ให้บริการภายนอกสำหรับงานที่เกี่ยวข้องและผู้ให้บริการเหล่านั้นก็ใช้ AI อยู่แล้ว แต่สําหรับผู้ที่ยังต้องคอยตอบคำถามเรื่องสวัสดิการเป็นประจํา แชทบอทสามารถช่วยเร่งการดำเนินงานต่าง ๆ สําหรับผู้ใช้และเมื่อเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นก็จะส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างเทย์เลอร์จึงมีข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ AI และระบบอัตโนมัติยังสามารถลดความรับผิดชอบด้านการออกแบบโปรแกรมและการวิเคราะห์ข้อมูลของเทย์เลอร์ได้อย่างมาก และที่สําคัญกว่านั้น GAI สามารถเข้าควบคุมการบริหารโปรแกรมสวัสดิการได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการวิเคราะห์ตลาด การสํารวจเงินเดือนและการเปรียบเทียบค่าตอบแทนที่มาพร้อมกับโปรแกรมสวัสดิการ แต่ข้อได้เปรียบที่แท้จริงคือการปรับข้อเสนอค่าตอบแทนให้เหมาะกับพนักงานแต่ละคน การนําสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับบุคคลต่าง ๆ มาใช้และการยกระดับค่าตอบแทนกับสวัสดิการพร้อมกันเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนที่จูงใจ (และรักษาพนักงานไว้กับบริษัท) มากที่สุด
ROI เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
โครงการที่มีผลกระทบสูงและงานที่ยุ่งน้อยลงนั้นฟังดูดีสําหรับพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน ในขณะที่ผู้นําธุรกิจก็ต้องการพนักงานที่พึงพอใจและผูกพันกับองค์กรมากขึ้นแต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่ได้มีแค่นั้น
เนื่องจากเวลาและค่าใช้จ่ายที่อาจประหยัดลงได้จากการใช้ AI และระบบอัตโนมัตินั้นมหาศาล การกรอกข้อมูล การวิจัยและการตอบคำถามด้านสวัสดิการที่พบบ่อยนั้น เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของงานน่าเบื่อต่าง ๆ ที่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และเครื่องมือที่ปรากฏในปัจจุบันก็เพิ่มคุณค่าให้กับขั้นตอนการทำงาน ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้มากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและใช้แนวทางที่สมดุลมากขึ้นสำหรับความเอาใจใส่และระบบเศรษฐกิจ ลองพิจารณาดูว่าจะประหยัดเวลาและเงินแล้วนำไปใช้กับส่วนอื่น ๆ ได้มากขนาดไหนในกรณีอย่างฮัดลีย์ ลี และเทย์เลอร์
Generative AI เพียงอย่างเดียวจะไม่เข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานแต่จะเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมตำแหน่งงานเหล่านั้นอย่างสำคัญ
ขอย้ำอีกทีว่า GAI มีแนวโน้มที่จะปรับปรุงงานบางอย่างมากกว่าจะแทนที่งานทั้งหมด แม้ว่า GAI อาจดําเนินกิจกรรมบางอย่างแต่ก็สามารถเชื่อมโยงช่องว่างของความรู้และทักษะเพื่อเพิ่มสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ในการวิจัยของ GitHub และ Microsoft โปรแกรมเมอร์ทํางานเสร็จเร็วขึ้น 56%ด้วยความช่วยเหลือจาก AI ในทํานองเดียวกัน สํานักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ พบว่าตัวแทนสนับสนุนลูกค้ามีประสิทธิผลมากขึ้น 14%ด้วยเครื่องมือ GAI ที่ช่วยในการสนทนา
กราฟด้านล่างแสดงผลกระทบที่คาดการณ์ของ Generative AI ในระดับกว้าง
แม้จะมีความตื่นเต้นเกี่ยวกับ ChatGPT แต่ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ AI และระบบอัตโนมัติกําลังเปลี่ยนแปลงการทํางานด้านบุคลากร TalentGPT จาก Beamery ใช้ GAI เพื่อสนับสนุนงาน HR ส่วนSeekOut และ Eightfold.ai ก็กําลังเพิ่ม GAI เข้าไปในโซลูชันสำหรับบุคลากร และหากตอนนี้คุณใช้เครื่องมือใด ๆ ของ Mercer ก็มีโอกาสสูงที่ทีม HR ของคุณจะได้รับประโยชน์จากพลังของ AI แล้ว
แทนที่จะมองหาเครื่องมือในการลดจํานวนพนักงาน ฝ่าย HR จําเป็นต้องค้นหาส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดระหว่างคนกับเทคโนโลยี ทั้งคนและเทคโนโลยีควรเสริมทักษะและกิจกรรมของอีกฝ่าย เช่น การจัดการกับประสิทธิภาพการทํางาน สุขภาพจิตและปัญหาระหว่างบุคคลนั้นต้องใช้ความละเอียดของคน แม้ว่า GAI จะไม่เข้าใจความแตกต่างหรือความเอาใจใส่ที่งานเหล่านั้นต้องการอย่างครบถ้วนแต่ก็เก่งในการหาข้อมูล ตอบคําถามแบบเรียลไทม์ ทําความเข้าใจข้อมูลและสร้างข้อความที่ส่งต่อไปให้คนเพื่อสร้างผลลัพธ์
การออกแบบงาน HR ใหม่
พันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงานจะทํางานร่วมกับ GAI ได้อย่างไร การออกแบบงานเป็นวิธีที่ปฏิบัติได้จริงในการเตรียมบทบาท HR เหล่านี้ให้พร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลง Ravin Jesuthasan และ John W. Boudreauกล่าวว่าการออกแบบงานคือการแบ่งตำแหน่งงานออกเป็นงานต่าง ๆ แล้วมอบหมายงานเหล่านั้นให้แก่ “ผู้ช่วยงาน” ที่เหมาะสม ได้แก่ AI บริการที่ใช้ร่วมกัน ระบบอัตโนมัติของกระบวนการหุ่นยนต์ (RPA) และตลาดบุคลากรภายใน แล้วสร้างกระบวนการทํางานใหม่ด้วยการผสมผสานบุคลากรและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด
แม้ว่าเราจะยังไม่พบศักยภาพทั้งหมดของ GAI แต่เรารู้ว่าการทํางานมีวิวัฒนาการไปพร้อมกับ RPA และแมชชีนเลิร์นนิง Jesuthasan และ Boudreau แสดงให้เห็นในหนังสือเรื่องReinventing Jobs ว่า RPA มักจะมาแทนที่งานด้านการรับรู้ที่ซ้ำซากและยึดกฎเกณฑ์ซึ่งเป็นไปอย่างอิสระ ส่วนแมชชีนเลิร์นนิงมักจะมาช่วยงานแบบผันแปรที่ต้องใช้วิจารณญาณและความคิดสร้างสรรค์และอาจดําเนินการแบบโต้ตอบได้
การสร้างสมดุลระหว่าง AI เชิงสร้างสรรค์กับความยั่งยืนด้าน HR
เมื่อฝ่าย HR ใช้ประโยชน์จาก AI และระบบอัตโนมัติ บุคลากรในงาน HR จะพร้อมสนับสนุนพนักงานอย่างมีความหมายมากขึ้น การทําความเข้าใจว่า GAI สามารถเปลี่ยนแปลงงาน HR ได้อย่างไรเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างความมั่นใจว่าบุคลากร HR มีความพร้อมสําหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
เริ่มต้นด้วยการหาโอกาสวัดปริมาณการทำงานของทีม HR ของคุณในปัจจุบัน ตั้งแต่การจัดสรรทรัพยากรไปจนถึงการให้บริการและพิจารณาว่าเมื่อปรับปรุงวิธีการแล้วจะส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้แก่ลูกค้าภายในได้อย่างไร ด้วยข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างแผนสําหรับการมีปฏิสัมพันธ์ การบริหารบุคลากร การใช้เทคโนโลยีและการส่งมอบบริการที่ดีขึ้นภายในฝ่าย HR
GAI สามารถช่วยเหลือความพยายามเหล่านี้แต่คุณค่าที่แท้จริงมาจากการให้พนักงานเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ค่าตอบแทน โปรแกรมการเรียนรู้และการลงทะเบียนสวัสดิการแบบสมัยใหม่ทำให้ผู้ใช้งานต้องเรียนรู้เยอะขึ้น การชี้ทางให้พวกเขาด้วยคําแนะนําที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลตามเป้าหมายด้านสุขภาพ ความมั่งคั่ง และเส้นทางอาชีพ จะช่วยให้ข้อตกลงเหล่านี้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้นําในฝ่าย HR และผู้นำธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการสนทนาเชิงกลยุทธ์ที่มีความสําคัญต่อบุคลากร ทําให้ความพยายามนี้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
คุณพร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลงนี้หรือยัง ติดต่อ Mercer เพื่อเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีของคุณ ยกระดับประสบการณ์พนักงานและสร้างความมั่นใจในงาน HR สำหรับอนาคตด้วยเครื่องมือออกแบบงานของเรา เราจะคอยนําทางคุณผ่านการเปลี่ยนแปลงพนักงานแบบเน้นดิจิทัลซึ่งขับเคลื่อนด้วยวิธีเปลี่ยนแปลงที่ผ่านการพิสูจน์ของเราและแสดงให้เห็นคุณประโยชน์ผ่านนวัตกรรมในงาน HR ปัจจุบัน สตรีมพอดแคสต์ซีรีส์ New Shape of WorkหรือNow of Workเพื่อฟังจากเพื่อนในสายงานที่เป็นพันธมิตรกับเราเพื่ออนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น