Generative AI จะพลิกโฉมสามบทบาทหลักในงาน HR 

991166790    

Generative AI (GAI) จะพลิกโฉมงาน HR แม้มีความกลัวกันว่า AI จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานมากมายแต่ที่จริงแล้ว AI และระบบอัตโนมัติมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่องานบางอย่างเท่านั้น ไม่ใช่งานทั้งหมด มีโอกาสมากมายในการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์บทบาทใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนทำงานอย่างแท้จริง ดังนั้น เราจะมาสำรวจสามบทบาทในงาน HR ที่กําลังเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจาก AI และระบบอัตโนมัติ ได้แก่ ตำแหน่งพันธมิตรทางธุรกิจด้านทรัพยากรบุคคล (HRBP) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้และพัฒนา (L&D) และผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน

GAI อาจไม่ทําให้ตำแหน่งงานลดลงแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนทำงานด้าน HR ที่รู้จักใช้ GAI จะเป็นที่ต้องการมากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ GAI Mercer พบว่านายจ้างจำนวน 58% วางแผนที่จะใช้ GAI ในงาน HR ภายในเดือนมิถุนายน 2024 และถึงแม้นายจ้างจำนวน 76% คิดว่า GAI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแต่เรื่องนี้เป็นมากกว่าการประหยัดต้นทุน เพราะ GAI จะช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรม แก้ปัญหาที่ซับซ้อนและได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น ด้วยการทำให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และความคิดสร้างสรรค์อย่างเท่าเทียมกัน

ทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างไรต่อ HRBP ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน ข้อมูลจาก Mercer Operations Scanner™ แสดงการจัดสรรเวลางานของตำแหน่งเหล่านี้ในปัจจุบัน และผลของ AI กับระบบอัตโนมัติซึ่งอาจมีต่อการจัดสรรเวลางานในอนาคต การออกแบบวิธีทํางาน HR ใหม่จะทำให้ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลสามารถใช้เครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานและยกระดับการปฏิบัติงานในทีมของตน

ลองสมมุติบุคลากรสามคนเพื่อคาดการณ์ผลกระทบของ GAI ที่มีต่องาน HR ที่สําคัญ โดยมีข้อแม้ว่าการจัดสรรงานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างองค์กร

HRBP: ฮัดลีย์

ฮัดลีย์เริ่มทำงานด้าน HR ในทศวรรษ 1990 ที่ธนาคารท้องถิ่น หลังจากทำงานในทีมเล็ก ๆ ที่แข็งแกร่งเป็นระยะเวลาหนึ่ง เธอก็ได้ก้าวไปสู่องค์กรขนาดใหญ่ และเติบโตในทุกด้านของงาน HR ในแวดวงการธนาคาร ความเชี่ยวชาญด้าน HR ที่กว้างขวางของฮัดลีย์ในภาคส่วนที่มีการกํากับดูแลอย่างเข้มงวดช่วยให้เธอก้าวขึ้นสู่ตําแหน่งอาวุโสในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR

แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าบทบาทพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ของฮัดลีย์นั้นไม่เหมือนกับสิ่งที่เธออยากทำอีกต่อไป เพราะนอกเหนือจากโครงการเชิงกลยุทธ์แล้วเธอยังต้องทำหน้าที่ธุรการสำหรับธุรกรรมมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฮัดลีย์ใช้เวลามากกว่าครึ่งหนึ่ง (55%) ในสัปดาห์การทํางานของเธอไปกับโครงการบริหารบุคลากร ซึ่งแบ่งออกเป็นการส่งมอบผลงาน (30%) การบริหารโครงการ (20%) และการสนับสนุนพนักงาน (5%)

บางครั้งฮัดลีย์รู้สึกเหมือนเป็นพันธมิตรด้านธุรกรรม HR มากกว่าพันธมิตรทางธุรกิจ เรื่องนี้สอดคล้องกับผลการสํารวจของ Mercer ในปี 2023 ซึ่งผู้ตอบแบบสํารวจจำนวน 47% ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่าบทบาทพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR เป็นไปในเชิงให้คําปรึกษามากกว่าเชิงธุรกรรม

หากพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR อย่างฮัดลีย์มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมก็จะแบ่งเวลาไปทํางานที่มีมูลค่าสูงได้มากขึ้น

  • เพราะระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่าง ๆ เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงาน เธอจึงใช้เวลากับงานบริหารบุคลากรน้อยลงถึงหนึ่งในสาม
  • เครื่องมือสมัยใหม่สามารถทําให้งานหลายอย่างกลายเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การมอบหมายงาน การจัดสรรทรัพยากร และอื่น ๆ เพื่อเร่งความเร็วของงานบริหารโครงการที่ Project Management Office (PMO) ของฮัดลีย์ไม่รองรับ
  • เครื่องมือ GAI เช่นแชทบอท สามารถตอบคําถามที่พบบ่อยของงาน HR ช่วยให้ฮัดลีย์ใช้เวลากับงานสนับสนุนพนักงานน้อยลงจาก 5% เหลือเพียง 1% ของชั่วโมงทำงานทั้งหมด
  • เครื่องมือ GAI สามารถขจัดงานกรอกข้อมูลซึ่งไม่ควรเป็นหน้าที่ของฮัดลีย์แต่เธอกลับต้องทำในหลายๆ กรณี

กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นว่าฮัดลีย์ใช้เวลาไปกับงานต่าง ๆ ที่ AI และระบบอัตโนมัติสามารถช่วยทำหรือทำแทนได้มากน้อยแค่ไหน

กราฟนี้แสดงงานที่พบบ่อยของ HRBP และสัดส่วนของการใช้เวลากับงานเหล่านี้ในปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็นงานที่ต้องใช้คนทำเท่านั้น งานที่ใช้เทคโนโลยีทำแทนได้ทั้งหมดและงานที่คนกับเทคโนโลยีทำร่วมกันได้
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจนําไปสู่การทํางานอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้นสําหรับฮัดลีย์แต่ก็ทําให้เกิดช่องว่างในงานสนับสนุนที่เธอทำมาโดยตลอด ในกระบวนการนี้อาจมีโอกาสงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นสองงาน คือ
  1. ที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์นี่คือบทบาทที่ฮัดลีย์อยากทำมานานแล้วคือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สําหรับผู้บริหารระดับสูงในการเชื่อมโยงความต้องการทางธุรกิจกับงานด้าน HR บทบาทนี้จะใช้กรอบความคิดเชิงวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อน กําหนดทิศทางและเป็นผู้นําด้านบุคลากรของแผนกธุรกิจ โดยจะบอกเล่าเรื่องราวด้วยข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงความพยายามด้านบุคลากรเข้ากับผลลัพธ์ทางธุรกิจ

  2. บริการผู้นําบุคลากร หลายบริษัทยังคงต้องการพันธมิตรทางธุรกิจในระดับเดียวกับผู้จัดการบุคลากร หากไม่ต้องทำงานเชิงกลยุทธ์หรือเชิงธุรกรรม ฮัดลีย์ก็สามารถรับบทบาทด้านประสิทธิภาพขององค์กรได้ ซึ่งเธอจะมุ่งเน้นเฉพาะการพัฒนาและสนับสนุนผู้จัดการบุคลากรตลอดวงจรชีวิตการทำงานของพนักงาน

ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D: ลี

เชิญพบกับลี ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ลีเป็นผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลที่มีภูมิหลังด้านไอทีเขาจึงเก่งเรื่องการสร้างเนื้อหาและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่รอบรู้ด้านเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญและทักษะการผลิตเฉพาะด้านของเขาเหมาะสมกับงานอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะลีสามารถสร้างสรรค์และส่งมอบสื่อการฝึกอบรมที่ช่วยให้เพื่อนร่วมงานพัฒนาทักษะได้ดีขึ้น

บทบาทอีกส่วนหนึ่งของลีคือการติดตามแนวโน้มและทักษะล่าสุดด้านเทคโนโลยี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาสังเกตเห็นว่าเครื่องมือ AI เช่น Midjourney และ Synthesia เลียนแบบความสามารถในการสร้างสรรค์ วิเคราะห์ และโต้ตอบที่ขับเคลื่อนหน้าที่การงานของเขาเอง ลีควรกังวลหรือไม่

AI และระบบอัตโนมัติจะส่งผลต่อส่วนสําคัญบางอย่างในบทบาทหน้าที่ของเขาแน่นอน ปัจจุบันงานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า ลีมักจะใช้เวลา 35% ในการออกแบบโปรแกรม และ 34% ในการส่งมอบโปรแกรม ซึ่งเราคาดว่างานเหล่านั้นจะลดลงเหลือ 21% และ 14% ของเวลาทำงานของลีตามลําดับ ระบบอัตโนมัติสามารถจัดตารางฝึกอบรมและจัดการกับการลงทะเบียน ส่วน GAI ก็สามารถให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ ตอบคําถามของผู้เข้ารับการฝึกอบรมและวิเคราะห์ข้อมูลประเมินการฝึกอบรมเพื่อแนะนําสิ่งที่ควรปรับปรุง

รายละเอียดทั้งหมดเป็นดังนี้

กราฟนี้แสดงงานที่พบบ่อยของผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และสัดส่วนของการใช้เวลากับงานเหล่านี้ในปัจจุบันโดยแบ่งออกเป็นงานที่ต้องใช้คนทำเท่านั้น งานที่ใช้เทคโนโลยีทำแทนได้ทั้งหมด และงานที่คนกับเทคโนโลยีทำร่วมกันได้

แม้ว่างานยุ่ง ๆ ของลีจะหายไปมากมายแต่สิ่งสําคัญสําหรับลีคือต้องคอยกำกับดูแลการเรียนรู้และพัฒนา เช่น งานเกี่ยวกับกลยุทธ์การฝึกอบรมและการจัดการเวนเดอร์จะไม่ถูกกระทบตามกราฟด้านบน AI จะช่วยให้ลีลดงานด้านการฝึกอบรมและเพิ่มความเป็นผู้ดำเนินรายการที่คอยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการแสวงหาข้อมูลและความคิดสร้างสรรค์

นอกจากนี้แม้แต่แพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้ที่ก้าวหน้าที่สุดก็ยังต้องการผู้ชี้นำเพื่อให้ทํางานได้อย่างราบรื่น GAI จะช่วยให้ลีมีเวลามากขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ในปัจจุบันและเริ่มสร้างรูปแบบการเรียนรู้และพัฒนาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานจะมีความยืดหยุ่นในอนาคต

ในโลกยุคใหม่ที่ใช้ AI ลีซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D ได้กลายเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนรู้ที่คอยสร้างและส่งมอบเนื้อหาเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก AI บทบาทของเขาเปลี่ยนจากเดิมที่มุ่งเน้นเฉพาะเนื้อหาและการส่งมอบผลงาน ไปสู่การส่งเสริมการเรียนรู้ การคัดสรรและการกํากับดูแล และสิ่งที่ดีสำหรับลีคือ GAI สามารถขยายผลความคิดสร้างสรรค์ของเขา เช่น แนะนําสไลด์นำเสนอและเนื้อหาการเรียนรู้

ผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน: เทย์เลอร์

เทย์เลอร์เติบโตจากการเป็นผู้นําด้านบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการรูปแบบใหม่ที่ดูแลค่าตอบแทนพนักงานทั่วโลก เขาใช้เวลาหลายปีในการปรับจังหวะสําหรับกระบวนการที่น่าเบื่อ เช่น การลงทะเบียน การวิเคราะห์และการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนงานต่าง ๆ เช่น ค่าตอบแทน ผลการปฏิบัติงาน สวัสดิการ ความเสมอภาคในการจ่ายค่าจ้างและวัฒนธรรมการจ่ายค่าจ้าง แต่ศักยภาพของ AI และระบบอัตโนมัติในการเร่งความเร็วของงานเหล่านี้ทำให้เทย์เลอร์มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดและก็มีศักยภาพมากที่สุดในการพลิกบทบาท เมื่อเทียบกับงาน HR ทั้งหมดที่กล่าวถึงในบทความนี้

ที่จริงแล้ว ภาระงานรายชั่วโมงมากกว่าครึ่งหนึ่ง (52%) ของเทย์เลอร์อาจได้รับผลกระทบ เมื่อคิดรวมกับวันลาที่ได้รับค่าจ้างช่วงเวลาดังกล่าวคือประมาณห้าถึงหกเดือนต่อปี ซึ่งในไม่ช้าอาจเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มผลกระทบทางธุรกิจและความมั่นคงในงานของเทย์เลอร์ตามลักษณะเชิงกลยุทธ์ของบทบาทที่ทำงานร่วมกับ AI ช่วยให้การออกแบบงานของเขาเปลี่ยนจากเดิมที่ทำตามกระบวนการไปสู่การเน้นผลลัพธ์ของพนักงาน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องมีนายจ้างที่เปิดรับการเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงนี้เข้ากับความพยายามพัฒนาทักษะที่แท้จริงและสามารถพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอนาคตของส่วนงานนี้

แชทบอท GAI สามารถจัดการงานสนับสนุนพนักงานได้สองในสามและสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบอย่างแท้จริง นายจ้างจํานวนมากว่าจ้างผู้ให้บริการภายนอกสำหรับงานที่เกี่ยวข้องและผู้ให้บริการเหล่านั้นก็ใช้ AI อยู่แล้ว แต่สําหรับผู้ที่ยังต้องคอยตอบคำถามเรื่องสวัสดิการเป็นประจํา แชทบอทสามารถช่วยเร่งการดำเนินงานต่าง ๆ สําหรับผู้ใช้และเมื่อเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นก็จะส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างเทย์เลอร์จึงมีข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ AI และระบบอัตโนมัติยังสามารถลดความรับผิดชอบด้านการออกแบบโปรแกรมและการวิเคราะห์ข้อมูลของเทย์เลอร์ได้อย่างมาก และที่สําคัญกว่านั้น GAI สามารถเข้าควบคุมการบริหารโปรแกรมสวัสดิการได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการวิเคราะห์ตลาด การสํารวจเงินเดือนและการเปรียบเทียบค่าตอบแทนที่มาพร้อมกับโปรแกรมสวัสดิการ แต่ข้อได้เปรียบที่แท้จริงคือการปรับข้อเสนอค่าตอบแทนให้เหมาะกับพนักงานแต่ละคน การนําสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับบุคคลต่าง ๆ มาใช้และการยกระดับค่าตอบแทนกับสวัสดิการพร้อมกันเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนที่จูงใจ (และรักษาพนักงานไว้กับบริษัท) มากที่สุด

กราฟนี้แสดงงานที่พบบ่อยของผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงานและสัดส่วนของการใช้เวลากับงานเหล่านี้ในปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็นงานที่ต้องใช้คนทำเท่านั้น งานที่ใช้เทคโนโลยีทำแทนได้ทั้งหมดและงานที่คนกับเทคโนโลยีทำร่วมกันได้
เช่นเดียวกับบุคลากรด้าน HR ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เทย์เลอร์มีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปสู่งานที่เน้นข้อมูลเชิงลึกและการเล่าเรื่องที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น เทย์เลอร์จะยังคงใช้เวลาเกือบหนึ่งในห้าไปกับการออกแบบโปรแกรม ส่วนเวลาที่ใช้ไปกับการวางแผนในปัจจุบัน (12%) ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับผลกระทบจาก AI และระบบอัตโนมัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงานอย่างเทย์เลอร์จะยังคงโดดเด่นด้วยความสามารถในการจัดทำแผนค่าตอบแทนและสวัสดิการใหม่ ๆ ที่ดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถ แต่ประโยชน์ที่แท้จริงคือโอกาสในการเป็นผู้ขับเคลื่อนบุคลากรที่คอยกําหนดทั้งค่าตอบแทนและประสบการณ์พนักงานโดยรวม

ROI เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้

โครงการที่มีผลกระทบสูงและงานที่ยุ่งน้อยลงนั้นฟังดูดีสําหรับพันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงาน ในขณะที่ผู้นําธุรกิจก็ต้องการพนักงานที่พึงพอใจและผูกพันกับองค์กรมากขึ้นแต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่ได้มีแค่นั้น

เนื่องจากเวลาและค่าใช้จ่ายที่อาจประหยัดลงได้จากการใช้ AI และระบบอัตโนมัตินั้นมหาศาล การกรอกข้อมูล การวิจัยและการตอบคำถามด้านสวัสดิการที่พบบ่อยนั้น เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของงานน่าเบื่อต่าง ๆ ที่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และเครื่องมือที่ปรากฏในปัจจุบันก็เพิ่มคุณค่าให้กับขั้นตอนการทำงาน ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้มากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและใช้แนวทางที่สมดุลมากขึ้นสำหรับความเอาใจใส่และระบบเศรษฐกิจ ลองพิจารณาดูว่าจะประหยัดเวลาและเงินแล้วนำไปใช้กับส่วนอื่น ๆ ได้มากขนาดไหนในกรณีอย่างฮัดลีย์ ลี และเทย์เลอร์

แถมยังมีการปรับปรุงที่ประเมินไม่ได้จากข้อมูลข่าวสารที่ขยายตัวด้วย ความสามารถของ GAI ในการประมวลผลและตีความชุดข้อมูลขนาดใหญ่สามารถส่งเสริมการตัดสินใจแบบองค์รวมและอิงข้อมูลได้อย่างเต็มที่ พันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR สามารถใช้ GAI ในการจัดทำกลยุทธ์สำหรับบุคลากร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D ก็สามารถใช้ GAI เพื่อให้คําแนะนําในการเรียนรู้ ส่วนผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงานสามารถใช้ GAI เพื่อสร้างข้อเสนอค่าตอบแทนที่เหมาะกับพนักงานแต่ละคนมากขึ้น จะมีใครที่ไม่อยากได้การสนับสนุนแบบนี้จากผู้ช่วยเสมือนจริง

Generative AI เพียงอย่างเดียวจะไม่เข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานแต่จะเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมตำแหน่งงานเหล่านั้นอย่างสำคัญ 

ขอย้ำอีกทีว่า GAI มีแนวโน้มที่จะปรับปรุงงานบางอย่างมากกว่าจะแทนที่งานทั้งหมด แม้ว่า GAI อาจดําเนินกิจกรรมบางอย่างแต่ก็สามารถเชื่อมโยงช่องว่างของความรู้และทักษะเพื่อเพิ่มสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ในการวิจัยของ GitHub และ Microsoft โปรแกรมเมอร์ทํางานเสร็จเร็วขึ้น 56%ด้วยความช่วยเหลือจาก AI ในทํานองเดียวกัน สํานักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ พบว่าตัวแทนสนับสนุนลูกค้ามีประสิทธิผลมากขึ้น 14%ด้วยเครื่องมือ GAI ที่ช่วยในการสนทนา

กราฟด้านล่างแสดงผลกระทบที่คาดการณ์ของ Generative AI ในระดับกว้าง

The chart captures the expected impact of generative AI more broadly   
กราฟนี้แสดงลักษณะการเปลี่ยนแปลงของงานและบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของ Generative AI การเปลี่ยนไปใช้ AI มากขึ้นจะช่วยเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญ สนับสนุนการทำงานเชิงปฏิสัมพันธ์ และทดแทนหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานเชิงธุรกรรม

แม้จะมีความตื่นเต้นเกี่ยวกับ ChatGPT แต่ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ AI และระบบอัตโนมัติกําลังเปลี่ยนแปลงการทํางานด้านบุคลากร TalentGPT จาก Beamery ใช้ GAI เพื่อสนับสนุนงาน HR  ส่วนSeekOut และ Eightfold.ai ก็กําลังเพิ่ม GAI เข้าไปในโซลูชันสำหรับบุคลากร และหากตอนนี้คุณใช้เครื่องมือใด ๆ ของ Mercer ก็มีโอกาสสูงที่ทีม HR ของคุณจะได้รับประโยชน์จากพลังของ AI แล้ว

แทนที่จะมองหาเครื่องมือในการลดจํานวนพนักงาน ฝ่าย HR จําเป็นต้องค้นหาส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดระหว่างคนกับเทคโนโลยี ทั้งคนและเทคโนโลยีควรเสริมทักษะและกิจกรรมของอีกฝ่าย เช่น การจัดการกับประสิทธิภาพการทํางาน สุขภาพจิตและปัญหาระหว่างบุคคลนั้นต้องใช้ความละเอียดของคน แม้ว่า GAI จะไม่เข้าใจความแตกต่างหรือความเอาใจใส่ที่งานเหล่านั้นต้องการอย่างครบถ้วนแต่ก็เก่งในการหาข้อมูล ตอบคําถามแบบเรียลไทม์ ทําความเข้าใจข้อมูลและสร้างข้อความที่ส่งต่อไปให้คนเพื่อสร้างผลลัพธ์

การออกแบบงาน HR ใหม่

พันธมิตรทางธุรกิจด้าน HR ผู้เชี่ยวชาญด้าน L&D และผู้นำด้านบริหารค่าตอบแทนพนักงานจะทํางานร่วมกับ GAI ได้อย่างไร การออกแบบงานเป็นวิธีที่ปฏิบัติได้จริงในการเตรียมบทบาท HR เหล่านี้ให้พร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลง Ravin Jesuthasan และ John W. Boudreauกล่าวว่าการออกแบบงานคือการแบ่งตำแหน่งงานออกเป็นงานต่าง ๆ แล้วมอบหมายงานเหล่านั้นให้แก่ “ผู้ช่วยงาน” ที่เหมาะสม ได้แก่ AI บริการที่ใช้ร่วมกัน ระบบอัตโนมัติของกระบวนการหุ่นยนต์ (RPA) และตลาดบุคลากรภายใน แล้วสร้างกระบวนการทํางานใหม่ด้วยการผสมผสานบุคลากรและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

แม้ว่าเราจะยังไม่พบศักยภาพทั้งหมดของ GAI แต่เรารู้ว่าการทํางานมีวิวัฒนาการไปพร้อมกับ RPA และแมชชีนเลิร์นนิง Jesuthasan และ Boudreau แสดงให้เห็นในหนังสือเรื่องReinventing Jobs ว่า RPA มักจะมาแทนที่งานด้านการรับรู้ที่ซ้ำซากและยึดกฎเกณฑ์ซึ่งเป็นไปอย่างอิสระ ส่วนแมชชีนเลิร์นนิงมักจะมาช่วยงานแบบผันแปรที่ต้องใช้วิจารณญาณและความคิดสร้างสรรค์และอาจดําเนินการแบบโต้ตอบได้

การสร้างสมดุลระหว่าง AI เชิงสร้างสรรค์กับความยั่งยืนด้าน HR

เมื่อฝ่าย HR ใช้ประโยชน์จาก AI และระบบอัตโนมัติ บุคลากรในงาน HR จะพร้อมสนับสนุนพนักงานอย่างมีความหมายมากขึ้น การทําความเข้าใจว่า GAI สามารถเปลี่ยนแปลงงาน HR ได้อย่างไรเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างความมั่นใจว่าบุคลากร HR มีความพร้อมสําหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

เริ่มต้นด้วยการหาโอกาสวัดปริมาณการทำงานของทีม HR ของคุณในปัจจุบัน ตั้งแต่การจัดสรรทรัพยากรไปจนถึงการให้บริการและพิจารณาว่าเมื่อปรับปรุงวิธีการแล้วจะส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้แก่ลูกค้าภายในได้อย่างไร ด้วยข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างแผนสําหรับการมีปฏิสัมพันธ์ การบริหารบุคลากร การใช้เทคโนโลยีและการส่งมอบบริการที่ดีขึ้นภายในฝ่าย HR

GAI สามารถช่วยเหลือความพยายามเหล่านี้แต่คุณค่าที่แท้จริงมาจากการให้พนักงานเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ค่าตอบแทน โปรแกรมการเรียนรู้และการลงทะเบียนสวัสดิการแบบสมัยใหม่ทำให้ผู้ใช้งานต้องเรียนรู้เยอะขึ้น การชี้ทางให้พวกเขาด้วยคําแนะนําที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลตามเป้าหมายด้านสุขภาพ ความมั่งคั่ง และเส้นทางอาชีพ จะช่วยให้ข้อตกลงเหล่านี้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้นําในฝ่าย HR และผู้นำธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการสนทนาเชิงกลยุทธ์ที่มีความสําคัญต่อบุคลากร ทําให้ความพยายามนี้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

คุณพร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลงนี้หรือยัง ติดต่อ Mercer เพื่อเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีของคุณ ยกระดับประสบการณ์พนักงานและสร้างความมั่นใจในงาน HR สำหรับอนาคตด้วยเครื่องมือออกแบบงานของเรา เราจะคอยนําทางคุณผ่านการเปลี่ยนแปลงพนักงานแบบเน้นดิจิทัลซึ่งขับเคลื่อนด้วยวิธีเปลี่ยนแปลงที่ผ่านการพิสูจน์ของเราและแสดงให้เห็นคุณประโยชน์ผ่านนวัตกรรมในงาน HR ปัจจุบัน สตรีมพอดแคสต์ซีรีส์ New Shape of WorkหรือNow of Workเพื่อฟังจากเพื่อนในสายงานที่เป็นพันธมิตรกับเราเพื่ออนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น 

Mercer เป็นบริษัทในเครือ Marsh McLennan เราช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในด้านบุคลากร ความเสี่ยงและกลยุทธ์ 
เกี่ยวกับผู้เขียน (ต่าง ๆ)
Jason Averbook

is Leader of Global HR Digital Transformation & AI, Mercer

    หัวข้อที่เกี่ยวข้อง